ระเบียบคณะกรรมการอัยการ
ว่าด้วยการประชุมและการลงมติ
พ.ศ. ๒๕๕๔
โดยที่เป็นการสมควรให้มีระเบียบคณะกรรมการอัยการ ว่าด้วยการประชุมและการลงมติ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๗ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. ๒๕๕๓ คณะกรรมการอัยการจึงออกระเบียบ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบคณะกรรมการอัยการ ว่าด้วยการประชุมและการลงมติ พ.ศ. ๒๕๕๔”
ข้อ ๓ ให้คณะกรรมการอัยการมีอำนาจตีความและวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้
ข้อ ๔ ให้อัยการสูงสุดรักษาการตามระเบียบนี้ และให้มีอำนาจออกประกาศ คำสั่ง หลักเกณฑ์และวิธีการเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามระเบียบนี้
บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ และคำสั่งอื่นใด ซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน
หมวด ๑
ประธานในที่ประชุม อำนาจและหน้าที่ของประธานคณะกรรมการอัยการ
และหน้าที่ของเลขานุการคณะกรรมการอัยการ
ข้อ ๕ ให้ประธานคณะกรรมการอัยการ เป็นประธานในที่ประชุมคณะกรรมการอัยการ
ในกรณีที่ประธานคณะกรรมการอัยการไม่มาประชุม หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองประธานคณะกรรมการอัยการเป็นประธานในที่ประชุม ถ้าประธานคณะกรรมการอัยการและรองประธานคณะกรรมการอัยการไม่มาประชุม หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้กรรมการอัยการในที่ประชุมเลือกกรรมการอัยการคนหนึ่งเป็นประธาน
ในกรณีประธานในที่ประชุมไม่อยู่ในที่ประชุมจนไม่อาจดำเนินการประชุมต่อไปได้ ให้นำความในวรรคสอง มาใช้บังคับโดยอนุโลม
ข้อ ๖ ประธานคณะกรรมการอัยการ มีอำนาจและหน้าที่ดังนี้
(๑) เรียกประชุมคณะกรรมการอัยการ หรือสั่งให้เลขานุการคณะกรรมการอัยการเรียกหรือนัดประชุมคณะกรรมการอัยการ
(๒) ควบคุมและดำเนินการประชุมให้เป็นไปโดยเรียบร้อย
(๓) รักษาความสงบเรียบร้อยในที่ประชุมคณะกรรมการอัยการ ตลอดถึงบริเวณที่ประชุมคณะกรรมการอัยการ
(๔) แต่งตั้งบุคคลหรือคณะบุคคลเพื่อดำเนินการตามมติของที่ประชุม
(๕) อำนาจและหน้าที่อื่นตามที่มีกฎหมายบัญญัติไว้หรือตามที่กำหนดไว้ในระเบียบนี้
ข้อ ๗ ให้เลขานุการคณะกรรมการอัยการ เป็นเลขานุการในที่ประชุมคณะกรรมการอัยการ โดยมีหน้าที่ดังนี้
(๑) ดำเนินการเรียกหรือนัดประชุมคณะกรรมการอัยการตามคำสั่งของประธานคณะกรรมการอัยการ
(๒) จัดระเบียบวาระการประชุม และจัดเตรียมสรรพเอกสารที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการอัยการในที่ประชุม
(๓) เสนอให้มีการเลือกประธานในที่ประชุมตามข้อ ๕ วรรคสอง
(๔) ช่วยประธานในที่ประชุมในการนับคะแนนเสียง
(๕) รับผิดชอบและควบคุมการทำรายงานการประชุม
(๖) แจ้งหรือยืนยันมติของที่ประชุมไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง
(๗) ปฏิบัติการตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย ระเบียบ ข้อกำหนด ประกาศ หรือตามที่ประธานในที่ประชุมคณะกรรมการอัยการมอบหมาย
หมวด ๒
การประชุมคณะกรรมการอัยการ
ข้อ ๘ ในการประชุมคณะกรรมการอัยการ ผู้ที่จะอยู่ในที่ประชุมได้เฉพาะแต่คณะกรรมการอัยการ เลขานุการคณะกรรมการอัยการ ผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการอัยการ และผู้ที่ได้รับอนุญาตจากประธานในที่ประชุม
ข้อ ๙ ในการประชุมคณะกรรมการอัยการ ย่อมเป็นไปตามกำหนดที่ประธานคณะกรรมการอัยการเรียกประชุมไว้ แต่ประธานคณะกรรมการอัยการจะสั่งเลื่อนหรืองดการประชุมตามที่เรียกหรือนัดไว้แล้วก็ได้ เมื่อเห็นว่ามีเหตุอันสมควร หรือไม่มีเรื่องที่สมควรจะบรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุม
ในกรณีที่ประธานคณะกรรมการอัยการเห็นสมควรเรียกประชุมเป็นพิเศษ ก็ให้เรียกประชุมได้
ข้อ ๑๐ การนัดประชุมต้องทำเป็นหนังสือและให้นัดล่วงหน้าไม่น้อยกว่าสามวัน
ประธานคณะกรรมการอัยการอาจนัดเร็วกว่านั้นหรือนัดประชุมโดยวิธีการอื่นใดหรืออาจให้คณะกรรมการอัยการลงมติโดยใช้มติเวียนก็ได้ เมื่อเห็นว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน เรื่องจำเป็น หรือมีเหตุสมควรประการอื่น
มติเวียนให้มีผลใช้ได้ต่อเมื่อคณะกรรมการอัยการเห็นชอบเป็นเอกฉันท์เท่านั้นและให้รายงานที่ประชุมคณะกรรมการอัยการทราบในวันประชุมครั้งต่อไป
ข้อ ๑๑ ให้เลขานุการคณะกรรมการอัยการส่งระเบียบวาระการประชุมกับเอกสารที่เกี่ยวข้องไปให้กรรมการอัยการก่อนวันนัดประชุมไม่น้อยกว่าสามวัน เว้นแต่เป็นกรณีการนัดประชุมตามข้อ ๑๐ วรรคสอง และหากมีเหตุจำเป็นจะส่งเพิ่มเติมอีกในเวลาใดก็ได้ตามที่เห็นสมควร
ข้อ ๑๒ การจัดระเบียบวาระการประชุมให้จัดลำดับดังนี้
(๑) เรื่องที่ประธานจะแจ้งต่อที่ประชุม
(๒) รับรองรายงานการประชุม
(๓) เรื่องแจ้งเพื่อทราบ
(๔) เรื่องที่ค้างพิจารณา
(๕) เรื่องเพื่อพิจารณา
(๖) เรื่องอื่น ๆ
ในกรณีที่ประธานคณะกรรมการอัยการเห็นสมควรจะจัดลำดับระเบียบวาระการประชุมเป็นอย่างอื่นก็ได้
ข้อ ๑๓ ให้ผู้มาประชุมลงลายมือชื่อในบัญชีรายชื่อผู้มาประชุมที่จัดเตรียมไว้ก่อนเข้าประชุมทุกครั้ง
กรรมการอัยการผู้ใดไม่อาจมาประชุมตามที่กำหนด ให้แจ้งต่อเลขานุการคณะกรรมการอัยการเพื่อรายงานประธานในที่ประชุมก่อนเริ่มการประชุม
ข้อ ๑๔ การประชุมคณะกรรมการอัยการต้องมีกรรมการอัยการมาประชุมไม่น้อยกว่าแปดคนจึงเป็นองค์ประชุม
ในการประชุมของคณะกรรมการอัยการ ถ้ามีการพิจารณาเรื่องเกี่ยวกับกรรมการอัยการผู้ใดโดยเฉพาะ ผู้นั้นไม่มีสิทธิอยู่ในที่ประชุม แต่เพื่อประโยชน์ในการนับองค์ประชุม ถ้าผู้นั้นได้เข้าประชุมแล้วและต้องออกจากที่ประชุม ให้นับผู้นั้นเป็นองค์ประชุมด้วย
เมื่อพ้นกำหนดเวลานัดประชุมไปสามสิบนาทีแล้วจำนวนกรรมการอัยการยังไม่ครบองค์ประชุม ประธานในที่ประชุมจะสั่งให้เลื่อนการประชุมไปก็ได้
ข้อ ๑๕ ในการประชุมคณะกรรมการอัยการ ให้ที่ประชุมพิจารณาไปตามลำดับที่จัดไว้ในระเบียบวาระการประชุมทุกเรื่อง การเปลี่ยนลำดับระเบียบวาระการประชุม การเลื่อนการประชุม การปิดประชุม หรือการยกเลิกประชุม ก่อนเสร็จสิ้นระเบียบวาระการประชุมจะกระทำได้โดยความเห็นชอบของที่ประชุมเท่านั้น
ประธานในที่ประชุมมีอำนาจปรึกษาที่ประชุมในปัญหาใด ๆ หรือสั่งพักการประชุมได้ตามที่เห็นสมควร
หมวด ๓
การลงมติ
ข้อ ๑๖ การลงมติของคณะกรรมการอัยการให้ถือเสียงข้างมากในที่ประชุม กรรมการอัยการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้ามีคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด
การออกเสียงลงมติให้กระทำโดยเปิดเผย เว้นแต่ที่ประชุมโดยเสียงข้างมากมีมติให้กระทำโดยวิธีการลงคะแนนลับ ส่วนวิธีการลงคะแนนลับให้เป็นไปตามที่ประธานในที่ประชุมกำหนด
ข้อ ๑๗ ประธานในที่ประชุมจะสั่งให้รวมหรือแยกประเด็นในการพิจารณาหรือลงมติก็ได้ เว้นแต่ที่ประชุมเห็นเป็นอย่างอื่น
หมวด ๔
การเผยแพร่รายงานการประชุม
ข้อ ๑๘ ให้เลขานุการคณะกรรมการอัยการจัดทำรายงานการประชุมคณะกรรมการอัยการ โดยบันทึกประเด็นที่ประชุมพิจารณาพร้อมด้วยความเห็นทั้งที่เป็นความเห็นของเสียงข้างมากและความเห็นของเสียงข้างน้อย และมติของคณะกรรมการอัยการ
ข้อ ๑๙ ให้ทำสำเนารายงานการประชุมของคณะกรรมการอัยการ ซึ่งที่ประชุมรับรองแล้วไว้อย่างน้อยสองชุด ณ สำนักงานอัยการสูงสุด
รายงานการประชุมของคณะกรรมการอัยการทุกครั้งจะต้องมีรายชื่อกรรมการอัยการที่มาประชุม และที่ไม่มาประชุม
ข้อ ๒๐ การเปิดเผยหรืองดเปิดเผยรายงานการประชุมทั้งหมดหรือบางส่วน ให้เป็นไปตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาภายใต้กฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ
ประกาศ ณ วันที่ ๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๔
จุลสิงห์ วสันตสิงห์
อัยการสูงสุด
ประธานคณะกรรมการอัยการ
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
ปณตภร/ผู้ตรวจ
๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น