ระเบียบคณะกรรมการอัยการ
ว่าด้วยการรักษาราชการแทน การปฏิบัติราชการแทน และการรักษาการ
ในตำแหน่งของพนักงานอัยการ
พ.ศ. ๒๕๕๔
โดยที่เป็นการสมควรกำหนดหลักเกณฑ์ว่าด้วยการรักษาราชการแทน การปฏิบัติราชการแทน และการรักษาการในตำแหน่งของพนักงานอัยการ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๐ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ. ๒๕๕๓ และมาตรา ๓๐ (๖) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. ๒๕๕๓ คณะกรรมการอัยการจึงออกระเบียบ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบคณะกรรมการอัยการ ว่าด้วยการรักษาราชการแทนการปฏิบัติราชการแทน และการรักษาการในตำแหน่งของพนักงานอัยการ พ.ศ. ๒๕๕๔”
ข้อ ๓ ในระเบียบนี้
“รักษาราชการแทน” หมายความว่า การที่พนักงานอัยการผู้หนึ่งผู้ใดทำการแทนกรณีพนักงานอัยการผู้ดำรงตำแหน่งไม่อาจหรือไม่สามารถปฏิบัติราชการได้
“ปฏิบัติราชการแทน” หมายความว่า การที่พนักงานอัยการผู้หนึ่งผู้ใดทำการแทนตามที่ได้รับมอบอำนาจจากพนักงานอัยการผู้ดำรงตำแหน่งหรือผู้รักษาการในตำแหน่ง
“รักษาการในตำแหน่ง” หมายความว่า การที่พนักงานอัยการผู้หนึ่งผู้ใดทำการแทนกรณีไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งหรือในกรณีที่ตำแหน่งว่างลง
ข้อ ๔ ในกรณีที่ผู้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดหรือผู้รักษาการในตำแหน่งอัยการสูงสุดไม่อาจหรือไม่สามารถปฏิบัติราชการได้และไม่ได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้รองอัยการสูงสุดผู้หนึ่งผู้ใดรักษาราชการแทน ให้รองอัยการสูงสุดผู้มีอาวุโสตามระเบียบแบบแผนรักษาราชการแทน
ในกรณีที่ผู้ดำรงตำแหน่งหรือผู้รักษาการในตำแหน่งอธิบดีอัยการ อธิบดีอัยการภาค อัยการพิเศษฝ่าย หรืออัยการจังหวัด ไม่อาจหรือไม่สามารถปฏิบัติราชการได้และไม่ได้มีคำสั่งแต่งตั้งพนักงานอัยการผู้หนึ่งผู้ใดรักษาราชการแทน ให้พนักงานอัยการในสำนักงานผู้มีลำดับอาวุโสตามระเบียบแบบแผนรักษาราชการแทน ทั้งนี้ อัยการสูงสุดอาจสั่งเปลี่ยนแปลงได้
ข้อ ๕ อำนาจในการสั่ง การอนุญาต การอนุมัติ การปฏิบัติราชการหรือการดำเนินการอื่นที่พนักงานอัยการผู้ดำรงตำแหน่งใดจะพึงปฏิบัติหรือดำเนินการตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งใด หรือมติของคณะกรรมการอัยการในเรื่องใด ถ้ากฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งนั้น หรือมติของคณะกรรมการอัยการในเรื่องนั้นมิได้กำหนดเรื่องการมอบอำนาจไว้เป็นอย่างอื่นหรือมิได้ห้ามเรื่องการมอบอำนาจไว้ ผู้ดำรงตำแหน่งหรือผู้รักษาการในตำแหน่งนั้นอาจมอบอำนาจให้พนักงานอัยการผู้ดำรงตำแหน่งอื่นปฏิบัติราชการแทนได้ ดังต่อไปนี้
(๑) อัยการสูงสุดอาจมอบอำนาจให้รองอัยการสูงสุด ผู้ตรวจการอัยการ อธิบดีอัยการ อธิบดีอัยการภาค หรือพนักงานอัยการผู้หนึ่งผู้ใดตามที่เห็นสมควร
(๒) อธิบดีอัยการหรืออธิบดีอัยการภาค อาจมอบอำนาจให้รองอธิบดีอัยการ รองอธิบดีอัยการภาค หรือพนักงานอัยการผู้หนึ่งผู้ใดตามที่เห็นสมควร
(๓) อัยการพิเศษฝ่ายอาจมอบอำนาจให้อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ อัยการผู้เชี่ยวชาญ หรือพนักงานอัยการผู้หนึ่งผู้ใดตามที่เห็นสมควร
(๔) อัยการจังหวัดอาจมอบอำนาจให้อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด รองอัยการจังหวัด หรือพนักงานอัยการผู้หนึ่งผู้ใดตามที่เห็นสมควร
การมอบอำนาจตามวรรคหนึ่ง มิให้มอบอำนาจให้แก่อัยการอาวุโส
การมอบอำนาจให้ทำเป็นหนังสือ
อัยการสูงสุดอาจกำหนดให้มีการมอบอำนาจในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือเงื่อนไข ในการมอบอำนาจให้ผู้มอบอำนาจหรือผู้รับมอบอำนาจตามวรรคหนึ่งต้องปฏิบัติก็ได้
ข้อ ๖ เมื่อมีการมอบอำนาจตามข้อ ๕ โดยชอบแล้ว ผู้รับมอบอำนาจมีหน้าที่ต้องปฏิบัติราชการตามที่ได้รับมอบอำนาจนั้นและจะมอบอำนาจนั้นให้แก่ผู้อื่นต่อไปไม่ได้
ข้อ ๗ การมอบอำนาจตามข้อ ๕ ให้ผู้มอบอำนาจพิจารณาถึงความรวดเร็วในการปฏิบัติราชการ การกระจายความรับผิดชอบตามสภาพของตำแหน่งของผู้รับมอบอำนาจ และการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน
เมื่อได้มอบอำนาจแล้ว ผู้มอบอำนาจมีหน้าที่กำกับติดตามผลการปฏิบัติราชการของผู้รับมอบอำนาจ และให้มีอำนาจแนะนำหรือแก้ไขการปฏิบัติราชการของผู้รับมอบอำนาจได้
ข้อ ๘ ให้ผู้รักษาราชการแทนหรือผู้ปฏิบัติราชการแทนตามที่กำหนดไว้ในระเบียบนี้ มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับผู้ซึ่งตนรักษาราชการแทนหรือปฏิบัติราชการแทน
ในกรณีที่มีกฎหมายแต่งตั้งให้พนักงานอัยการผู้ดำรงตำแหน่งใดเป็นกรรมการหรือให้มีอำนาจและหน้าที่อย่างใด ให้ผู้รักษาราชการแทนหรือผู้ปฏิบัติราชการแทนมีอำนาจและหน้าที่เป็นกรรมการหรือมีอำนาจและหน้าที่เช่นเดียวกับผู้ดำรงตำแหน่งนั้นในการรักษาราชการแทนหรือปฏิบัติราชการแทนด้วย แล้วแต่กรณี
ข้อ ๙ ในกรณีตำแหน่งอัยการสูงสุดว่างลง ให้รองอัยการสูงสุดผู้มีลำดับอาวุโสตามระเบียบแบบแผนรักษาการในตำแหน่งอัยการสูงสุด ถ้าตำแหน่งรองอัยการสูงสุดว่างลงทั้งหมด ให้ผู้ตรวจการอัยการผู้มีลำดับอาวุโสตามระเบียบแบบแผนรักษาการในตำแหน่งอัยการสูงสุด และหากตำแหน่งผู้ตรวจการอัยการว่างลงทั้งหมดด้วย ให้อธิบดีอัยการ อธิบดีอัยการภาค ผู้มีลำดับอาวุโสตามระเบียบแบบแผนรักษาการในตำแหน่งอัยการสูงสุด
ในกรณีไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งหรือตำแหน่งที่ว่างลงเป็นตำแหน่งรองอัยการสูงสุด ผู้ตรวจการอัยการ อธิบดีอัยการ อธิบดีอัยการภาค อัยการพิเศษฝ่าย หรืออัยการจังหวัด ให้อัยการสูงสุดมีอำนาจแต่งตั้งพนักงานอัยการผู้หนึ่งผู้ใดรักษาการในตำแหน่งนั้นได้
ให้ผู้รักษาการในตำแหน่งตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง มีอำนาจและหน้าที่ตามตำแหน่งที่รักษาการนั้น
ในกรณีที่มีกฎหมายแต่งตั้งให้พนักงานอัยการผู้ดำรงตำแหน่งใดเป็นกรรมการหรือให้มีอำนาจและหน้าที่อย่างใด ให้ผู้รักษาการในตำแหน่งมีอำนาจและหน้าที่เป็นกรรมการหรือมีอำนาจและหน้าที่เช่นเดียวกับผู้ดำรงตำแหน่งนั้นในการรักษาการในตำแหน่งด้วย
ข้อ ๑๐ ให้คณะกรรมการอัยการมีอำนาจตีความและวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้
ข้อ ๑๑ ให้อัยการสูงสุดรักษาการตามระเบียบนี้ และให้มีอำนาจออกประกาศ คำสั่ง หลักเกณฑ์และวิธีการเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามระเบียบนี้
บรรดาระเบียบ ข้อกำหนด ประกาศ และคำสั่งอื่นใดซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน
ประกาศ ณ วันที่ ๑๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔
จุลสิงห์ วสันตสิงห์
อัยการสูงสุด
ประธานคณะกรรมการอัยการ
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๔
ณัฐวดี/ตรวจ
๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๔
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น