ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ระเบียบ อสส.รถราชการและค่าตอบแทนเหมาจ่ายฯ 2555

ระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด
ว่าด้วยรถราชการและค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง
พ.ศ. ๒๕๕๕
                  

โดยที่สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นส่วนราชการที่มีอิสระในการบริหารงานบุคคล การงบประมาณ และการดำเนินการอื่น โดยมีอัยการสูงสุดเป็นผู้บังคับบัญชา เพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการที่จำเป็นจะต้องจัดให้มีรถราชการเพื่อใช้ในราชการของสำนักงานอัยการสูงสุด และเพื่อใช้ในการปฏิบัติงานของข้าราชการฝ่ายอัยการ ประกอบกับเพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและดูแลรถราชการ สมควรที่สำนักงานอัยการสูงสุดจะได้กำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งด้วย จึงเป็นการสมควรให้มีระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด ว่าด้วยรถราชการและค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๗ วรรคหนึ่ง (๓) และวรรคสาม ประกอบมาตรา ๗ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ. ๒๕๕๓ อัยการสูงสุดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการอัยการจึงออกระเบียบ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑  ระเบียบนี้เรียกว่า ระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด ว่าด้วยรถราชการและค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง พ.ศ. ๒๕๕๕

ข้อ ๒[๑]  ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ ๓  ในระเบียบนี้
รถราชการ หมายความว่า รถประจำตำแหน่ง รถรับรอง และรถส่วนกลาง
รถประจำตำแหน่ง หมายความว่า รถยนต์ที่สำนักงานจัดให้แก่ข้าราชการผู้ดำรงตำแหน่งตามบัญชีหมายเลข ๑ ส่วนที่ ๑ ท้ายระเบียบนี้
รถรับรอง หมายความว่า รถยนต์ที่สำนักงานจัดไว้เพื่อเข้าร่วมขบวน หรือเป็นพาหนะรับรองบุคคลสำคัญตามบัญชีหมายเลข ๑ ส่วนที่ ๒ ท้ายระเบียบนี้
รถส่วนกลาง หมายความว่า รถยนต์ รถยนต์นั่งกันกระสุน หรือรถจักรยานยนต์ที่สำนักงานจัดไว้เพื่อกิจการอันเป็นส่วนรวมของสำนักงาน หรือเพื่อประโยชน์ของทางราชการตามบัญชีหมายเลข ๑ ส่วนที่ ๓ ท้ายระเบียบนี้
ค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง หมายความว่า เงินที่จ่ายตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งให้แก่ผู้มีสิทธิได้รถประจำตำแหน่ง
สำนักงาน หมายความว่า สำนักงานอัยการสูงสุด
สำนักงานภายใน หมายความว่า สำนักงานภายในตามประกาศ ก.อ. ซึ่งได้รับการจัดสรรรถราชการ
หัวหน้าส่วนราชการ หมายความว่า อัยการสูงสุด หรืออธิบดีอัยการภาค
ผู้อำนวยการ หมายความว่า ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารกิจการสำนักงานอัยการสูงสุด
ข้าราชการ หมายความว่า ข้าราชการฝ่ายอัยการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ และให้หมายรวมถึงลูกจ้าง และพนักงานราชการ
ผู้กลั่นกรองงาน หมายความว่า อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุดซึ่งได้รับแต่งตั้งจากสำนักงานให้ปฏิบัติหน้าที่ผู้กลั่นกรองงาน
ก.อ. หมายความว่า คณะกรรมการอัยการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ

ข้อ ๔  ให้อัยการสูงสุด มีอำนาจตีความและวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้

ข้อ ๕  ให้อัยการสูงสุดรักษาการตามระเบียบนี้ และให้มีอำนาจออกประกาศ คำสั่ง หลักเกณฑ์และวิธีการเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามระเบียบนี้
บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง หรือมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน

หมวด ๑
ตราเครื่องหมายและอักษรชื่อรถราชการ
                  

ข้อ ๖  รถส่วนกลางทุกคันให้มีตราเครื่องหมายประจำของสำนักงานอัยการสูงสุดขนาดกว้างหรือยาวไม่น้อยกว่า ๑๘ เซนติเมตร และอักษรชื่อเต็ม สำนักงานอัยการสูงสุด ขนาดสูงไม่น้อยกว่า ๕ เซนติเมตร ไว้ด้านข้างนอกรถทั้งสองข้าง ยกเว้นรถยนต์นั่งกันกระสุน
สำหรับรถจักรยานยนต์ ขนาดของตราเครื่องหมายและอักษรชื่อเต็ม สำนักงานอัยการสูงสุด ให้ลดลงตามส่วน
ตราเครื่องหมายและอักษรชื่อตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ให้ใช้สติ๊กเกอร์หรือพ่นด้วยสีขาว เว้นแต่ใช้สีขาวแล้วมองเห็นได้ไม่ชัดเจนให้ใช้สีอื่นแทน ในกรณีที่มีการจำหน่ายรถส่วนกลาง ให้สำนักงานภายในลบหรือทำลายตราเครื่องหมายและอักษรแสดงชื่อสังกัดของสำนักงานอัยการสูงสุดออกทั้งหมดก่อนที่จะส่งมอบรถส่วนกลางให้บุคคลอื่น
สำนักงานภายในใดมีเหตุผลและความจำเป็นซึ่งเห็นว่า การมีตราเครื่องหมายและอักษรชื่อแสดงสังกัดของสำนักงานอัยการสูงสุดไว้ด้านข้างนอกรถ อาจไม่ปลอดภัยแก่ผู้ใช้ หรือไม่เหมาะสมแก่การปฏิบัติงาน ให้ขออนุมัติอัยการสูงสุด เพื่อขอยกเว้นการมีตราเครื่องหมายและชื่อสำนักงานอัยการสูงสุด

หมวด ๒
การจัดหารถราชการ
                  

ข้อ ๗  ให้จัดหารถประจำตำแหน่งแก่อัยการสูงสุดจำนวน ๑ คัน ตามบัญชีหมายเลข ๑ ส่วนที่ ๑ ท้ายระเบียบนี้
ข้าราชการผู้ดำรงตำแหน่งอื่นนอกเหนือจากวรรคหนึ่ง ให้ได้รับค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง ตามข้อ ๓๐ เว้นแต่ในกรณีมีความจำเป็นและความเหมาะสมเป็นพิเศษ อัยการสูงสุดอาจมีคำสั่งให้ใช้รถประจำตำแหน่ง
ข้าราชการผู้มีสิทธิได้รับรถประจำตำแหน่งหรือได้รับค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งและไปดำรงตำแหน่งในรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีสิทธิได้รับรถประจำตำแหน่งของรัฐวิสาหกิจหรือได้รับค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งในรัฐวิสาหกิจด้วย ให้ข้าราชการผู้นั้นเลือกใช้รถประจำตำแหน่งหรือรับค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งทางใดทางหนึ่งได้เพียงตำแหน่งเดียว
รถประจำตำแหน่งซึ่งมีอายุการใช้งานมาแล้วไม่น้อยกว่า ๖ ปี และรถส่วนกลางซึ่งมีอายุการใช้งานมาแล้วไม่น้อยกว่า ๕ ปี ให้ถือเป็นเกณฑ์ที่จะพิจารณาจัดหารถคันใหม่ทดแทนคันเก่าได้
ในกรณีรถประจำตำแหน่งหรือรถส่วนกลางที่ได้รับความเสียหายต้องเสียค่าซ่อมสูง หรือประโยชน์ที่จะได้รับไม่คุ้มค่ากับค่าซ่อม หรือเมื่อซ่อมแล้วไม่อยู่ในสภาพที่ใช้การได้โดยปลอดภัยหรือไม่อาจใช้งานได้ตามปกติ ไม่อยู่ในบังคับของระยะเวลาดังกล่าว
ความในวรรคสี่และวรรคห้าไม่ใช้บังคับกับรถรับรอง โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของอัยการสูงสุดที่จะพิจารณาตามความจำเป็นเหมาะสม

ข้อ ๘  ให้มีคณะกรรมการว่าด้วยรถราชการสำนักงานอัยการสูงสุด เรียกโดยย่อว่า กร.อส.ประกอบด้วย
(๑) อัยการสูงสุด หรือรองอัยการสูงสุดที่ได้รับมอบหมาย เป็นประธานกรรมการ
(๒) ผู้ตรวจการอัยการที่ได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุด เป็นกรรมการ
(๓) อธิบดีอัยการ สำนักงานคณะกรรมการอัยการ เป็นกรรมการ
(๔) อธิบดีอัยการ สำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย เป็นกรรมการ
(๕) อธิบดีอัยการ สำนักงานนโยบาย ยุทธศาสตร์ และงบประมาณ เป็นกรรมการ
(๖) อัยการพิเศษฝ่ายงบประมาณ เป็นกรรมการ
(๗) ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารกิจการสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นกรรมการและเลขานุการ
ให้ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลางและผู้อำนวยการสำนักบริหารทรัพย์สิน เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
ให้ กร.อส. มีอำนาจและหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในระเบียบนี้และตามที่อัยการสูงสุดมอบหมาย

ข้อ ๙  ขนาดมาตรฐานรถราชการให้เป็นไปตามบัญชีหมายเลข ๑ ท้ายระเบียบนี้
การกำหนดราคามาตรฐานรถราชการตามวรรคหนึ่ง ให้ กร.อส. เป็นผู้พิจารณาโดยคำนึงถึงราคามาตรฐานของทางราชการ แล้วเสนออัยการสูงสุดเพื่ออนุมัติ
ให้สำนักงานจัดหารถราชการโดยการซื้อ การเช่า หรือการเช่าซื้อ
ในกรณีที่มีความจำเป็นไม่อาจจัดหารถตามราคาตามวรรคสองได้ ให้อยู่ในดุลพินิจของอัยการสูงสุดที่จะพิจารณาตามความจำเป็นและเหมาะสม เพื่อประโยชน์ของทางราชการ

หมวด ๓
การใช้รถราชการ
                  

ข้อ ๑๐  รถประจำตำแหน่ง ให้ใช้ในการปฏิบัติราชการในตำแหน่งหน้าที่ หรือที่ได้รับมอบหมายโดยชอบ หรืองานที่เกี่ยวเนื่องโดยตรงกับงานในตำแหน่งหน้าที่ หรือฐานะที่ดำรงตำแหน่งนั้น รวมตลอดถึงการใช้เพื่อเดินทางไปกลับระหว่างที่พัก และสถานที่ที่ปฏิบัติราชการ และเพื่อการอื่นที่จำเป็นและเหมาะสมแก่การดำรงตำแหน่งหน้าที่ในหมู่ข้าราชการและสังคม

ข้อ ๑๑  ในกรณีที่ผู้ใช้รถประจำตำแหน่งใดพ้นจากตำแหน่งหรือไม่ใช้รถประจำตำแหน่ง ให้ผู้ใช้รถประจำตำแหน่งนั้นคืนรถให้แก่สำนักงาน ภายในกำหนด ๑๕ วัน นับแต่วันที่ได้พ้นจากตำแหน่งหรือไม่ใช้รถประจำตำแหน่ง

ข้อ ๑๒  รถรับรอง ให้ใช้เพื่อประโยชน์ของทางราชการ หรือจัดไว้เพื่อเข้าร่วมขบวนหรือเป็นพาหนะรับรองบุคคลสำคัญ โดยให้หัวหน้าส่วนราชการเป็นผู้มีอำนาจอนุญาตให้ใช้และให้ยืมรถรับรอง

ข้อ ๑๓  เว้นแต่อัยการสูงสุดจะกำหนดเป็นอย่างอื่น รถส่วนกลางให้ใช้หรือให้ยืมเพื่อกิจการอันเป็นส่วนรวมของสำนักงานหรือเพื่อประโยชน์ของทางราชการตามหลักเกณฑ์ดังนี้
(๑) เพื่อกิจการอันเป็นส่วนรวมของสำนักงาน
(๒) เพื่อกิจการที่เป็นประโยชน์เกี่ยวเนื่องกับราชการ และการกุศลสาธารณะ งานสาธารณประโยชน์ งานสวัสดิการของข้าราชการในสำนักงาน
ใบอนุญาตใช้รถส่วนกลาง ให้ใช้ตามแบบที่สำนักงานกำหนด
การใช้รถส่วนกลางที่เป็นรถยนต์นั่งกันกระสุน ให้หัวหน้าสำนักงานภายในปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบว่าด้วยการนั้น ในกรณีจำเป็นให้สำนักงานออกหลักเกณฑ์การจัดหา การใช้รถ การเก็บรักษา และการอื่นใดอันจำเป็นเพื่อใช้กับรถยนต์นั่งกันกระสุนด้วย

ข้อ ๑๔  ให้บุคคลต่อไปนี้เป็นผู้มีอำนาจอนุญาตให้ใช้รถส่วนกลางที่อยู่ในความรับผิดชอบในราชการของสำนักบริหารกลาง หรือสำนักงานภายใน ดังนี้
(๑) อัยการสูงสุดเป็นผู้มีอำนาจอนุญาตให้ใช้รถส่วนกลางทุกกรณี
(๒) อธิบดีอัยการภาคเป็นผู้มีอำนาจอนุญาตให้ใช้รถส่วนกลางที่อยู่ในความรับผิดชอบ
(๓) หัวหน้าสำนักงานภายในเป็นผู้มีอำนาจอนุญาตให้ใช้รถส่วนกลางที่อยู่ในความรับผิดชอบ
(๔) ผู้อำนวยการหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการเป็นผู้มีอำนาจอนุญาตให้ใช้รถส่วนกลางในเขตกรุงเทพมหานคร เว้นแต่กรณีขอใช้รถส่วนกลางนอกเวลาราชการ หรือกรณีที่ขอใช้รถส่วนกลางนอกเขตกรุงเทพมหานคร ให้ผู้อำนวยการเป็นผู้มีอำนาจอนุญาต

ข้อ ๑๕  ให้หัวหน้าส่วนราชการเป็นผู้มีอำนาจอนุญาตให้สำนักงานภายในอื่น ยืมรถส่วนกลางที่อยู่ในความรับผิดชอบ

ข้อ ๑๖  การยืมใช้รถส่วนกลางเพื่อกิจการตามข้อ ๑๓ ผู้ยืมจะต้องทำเป็นหนังสือขอยืม และจะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้มีอำนาจตามข้อ ๑๕ ก่อนทุกครั้ง

ข้อ ๑๗  กรณีที่พนักงานขับรถไม่มี หรือมีแต่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ หัวหน้าสำนักงานภายใน อาจมอบหมายให้ข้าราชการของสำนักงานภายในนั้น ๆ เป็นผู้ขับรถได้  ทั้งนี้ ให้พิจารณาถึงความสามารถและประสบการณ์ในการขับรถของผู้นั้น และจะต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถประเภทนั้นตามกฎหมาย
สำหรับสำนักงานภายในที่อยู่ในพื้นที่ของจังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส และสำนักงานอัยการจังหวัดนาทวี กรณีที่พนักงานขับรถไม่มี หรือมีแต่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ หรือเพื่อความปลอดภัยในร่างกาย ชีวิตของข้าราชการ และทรัพย์สินของทางราชการ หัวหน้าสำนักงานภายในอาจมอบหมายให้ข้าราชการหรือบุคคลอื่นที่เห็นว่าเหมาะสมเป็นผู้ขับรถได้  ทั้งนี้ ให้พิจารณาถึงความสามารถและประสบการณ์ในการขับรถของผู้นั้น และจะต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถประเภทนั้นตามกฎหมาย

ข้อ ๑๘  ให้หัวหน้าสำนักงานภายในมีหน้าที่ควบคุมการใช้ และการดูแลรักษารถส่วนกลาง โดยให้มีอำนาจแต่งตั้งข้าราชการในหน่วยงานราชการนั้น ๆ เป็นเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมรถได้ตามที่เห็นสมควร
เจ้าหน้าที่ผู้ได้รับการแต่งตั้งตามวรรคหนึ่ง มีหน้าที่ควบคุมการใช้ การเบิกจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง การซ่อมบำรุง การจัดหาอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย และการดูแลรักษารถส่วนกลางให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย

ข้อ ๑๙  ให้สำนักงานบริหารกิจการสำนักงานอัยการสูงสุดจัดทำบัญชีรถราชการแยกประเภทเป็นรถประจำตำแหน่ง รถส่วนกลาง รถรับรอง รวมทั้งแสดงหลักฐานการได้มาและการจำหน่ายจ่ายโอนรถราชการตามแบบที่สำนักงานกำหนด
การเปลี่ยนแปลงประเภทรถราชการตามวรรคหนึ่งจะกระทำมิได้ เว้นแต่กรณีที่มีความจำเป็นให้เปลี่ยนแปลงได้ โดยให้ผู้อำนวยการเสนอเรื่องต่อ กร.อส. เพื่อพิจารณาให้เปลี่ยนแปลงเป็นรถรับรองหรือรถส่วนกลาง และให้สำนักงานจัดสรรเพื่อทดแทนรถรับรอง หรือรถส่วนกลางที่มีอายุการใช้งานเกิน ๕ ปี หรือจัดสรรเพื่อทดแทนรถรับรอง หรือรถส่วนกลางที่ได้รับความเสียหายต้องเสียค่าซ่อมสูง หรือประโยชน์ที่จะได้รับไม่คุ้มค่ากับค่าซ่อม หรือเมื่อซ่อมแล้วไม่อยู่ในสภาพที่ใช้การได้โดยปลอดภัยหรือไม่อาจใช้งานได้ตามปกติ แล้วเสนออัยการสูงสุดเพื่ออนุมัติ

หมวด ๔
การเก็บรักษาและซ่อมบำรุงรถราชการ
                  

ข้อ ๒๐  การเก็บรักษารถประจำตำแหน่งให้อยู่ในความควบคุมและความรับผิดชอบของผู้ใช้รถประจำตำแหน่ง

ข้อ ๒๑  การเก็บรักษารถส่วนกลาง และรถรับรอง ให้อยู่ในความควบคุมและรับผิดชอบของสำนักงานภายใน โดยให้เก็บรักษาในสถานที่เก็บ หรือบริเวณของหน่วยงานราชการนั้น โดยให้คำนึงถึงความปลอดภัยด้วย
หากสถานที่เก็บหรือบริเวณของหน่วยงานราชการไม่มีความปลอดภัยเพียงพอ หรือมีราชการจำเป็นและเร่งด่วน ให้หัวหน้าสำนักงานภายในพิจารณาสถานที่อื่นเป็นสถานที่เก็บรถส่วนกลางและรถรับรองเป็นการชั่วคราวหรือเป็นครั้งคราว โดยให้คำนึงถึงความมั่นคงและปลอดภัยของสถานที่นั้น  ทั้งนี้ ให้รายงานพร้อมด้วยเหตุผลความจำเป็นและรายละเอียดของสถานที่ที่จะนำรถส่วนกลางและรถรับรองไปเก็บรักษา ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ามีความปลอดภัยเพียงพอ ต่อหัวหน้าส่วนราชการในโอกาสแรกที่อาจจะกระทำได้

ข้อ ๒๒  ให้พนักงานขับรถหรือผู้ขับรถตามข้อ ๑๗ นำรถส่วนกลางเข้าเก็บในสถานที่เก็บทันทีที่เสร็จสิ้นการใช้รถแล้ว โดยให้ใช้อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยทุกชนิดที่มีอยู่และส่งมอบกุญแจรถให้เจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมรถ
ในกรณีที่การใช้รถได้เสร็จสิ้นลงภายหลังเวลาราชการและไม่สามารถส่งมอบกุญแจรถให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมรถได้ ให้ส่งมอบแก่ผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นกรณีไป หากไม่มีผู้รับมอบกุญแจรถดังกล่าว ให้พนักงานขับรถหรือผู้ขับรถตามข้อ ๑๗ เก็บรักษากุญแจรถนั้นไว้ด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ และให้รีบส่งมอบผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในโอกาสแรกที่พึงกระทำได้

ข้อ ๒๓  ในกรณีที่เกิดการสูญหายหรือเสียหายขึ้นแก่รถส่วนกลางหรือรถรับรองในระหว่างการเก็บรักษาที่อื่นเป็นการชั่วคราว ผู้เก็บรักษาต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ทางราชการ เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าได้ใช้ความระมัดระวังดูแลรักษาเยี่ยงวิญญูชนจะพึงสงวนรักษาทรัพย์สินของตนเองแล้ว และการสูญหายหรือเสียหายนั้นมิได้เกิดขึ้นจากความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของผู้เก็บรักษา แต่หากการสูญหายหรือเสียหายนั้น เกิดขึ้นเนื่องจากการนำไปใช้ในการอื่น ให้ผู้อื่นใช้ หรือนำไปเก็บไว้ ณ ที่ที่มิได้รับอนุญาต ผู้เก็บรักษาต้องรับผิดชอบทุกกรณีแม้ว่าจะเกิดด้วยเหตุสุดวิสัย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าถึงอย่างไรความสูญหายหรือเสียหายก็จะเกิดแก่รถส่วนกลางหรือรถรับรองคันนั้น

ข้อ ๒๔  เมื่อเกิดการสูญหายหรือเสียหายขึ้นกับรถประจำตำแหน่ง ผู้ใช้รถประจำตำแหน่งต้องรีบรายงานให้สำนักงานทราบทันที กรณีที่มิได้เป็นผู้ใช้รถเองหรือไม่สามารถจะรายงานเองได้ ให้พนักงานขับรถรีบรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นจนถึงอัยการสูงสุด แล้วแต่กรณี
ในกรณีเมื่อเกิดการสูญหายหรือเสียหายขึ้นแก่รถส่วนกลางหรือรถรับรอง ให้พนักงานขับรถหรือผู้ขับรถตามข้อ ๑๗ วรรคหนึ่ง หรือผู้มอบหมายให้บุคคลอื่นเป็นผู้ขับรถตามข้อ ๑๗ วรรคสอง ทำรายงานเสนอต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นจนถึงอัยการสูงสุดเพื่อทราบและพิจารณา
การรายงานกรณีรถราชการสูญหายหรือเสียหายให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ให้รายงานตามแบบที่สำนักงานกำหนด

ข้อ ๒๕  ให้สำนักงานภายในจัดทำประกันภัยรถราชการได้ โดยกำหนดให้เป็นประกันภัยรถยนต์ประเภทที่ ๓ ที่คุ้มครองผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้วย หรือประเภทอื่นในลักษณะเดียวกันตามที่สำนักงานกำหนด
ในกรณีที่ผู้ใช้รถประจำตำแหน่งประสงค์จะให้สำนักงานภายในทำประกันภัยรถประจำตำแหน่งประเภทที่ ๑ ผู้นั้นต้องรับผิดชอบค่าเบี้ยประกันภัยตามสัญญาประกันภัย
นอกจากสำนักงานจะกำหนดเป็นอย่างอื่น การทำประกันภัยตามวรรคหนึ่ง หรือวรรคสอง ให้ผู้อำนวยการสำหรับรถราชการที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร หรือหัวหน้าสำนักงานภายในสำหรับรถราชการที่อยู่ในจังหวัดอื่น แล้วแต่กรณี เป็นผู้พิจารณาคัดเลือกผู้รับประกันภัยจากบริษัทประกันภัยรถยนต์ตามกฎหมาย
เงินค่าเบี้ยประกันตามวรรคหนึ่ง ให้เบิกจ่ายจากเงินงบประมาณ

ข้อ ๒๖  ในกรณีที่รถประจำตำแหน่งสูญหายหรือเสียหายเป็นรถที่ได้ทำสัญญาประกันภัยไว้ตามข้อ ๒๕ วรรคสอง ผู้ใช้รถประจำตำแหน่งต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในส่วนที่นอกเหนือจากที่สำนักงานภายในได้รับตามสัญญาประกันภัยเฉพาะกรณีที่การสูญหายหรือเสียหายนั้นเกิดจากความจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของตนเท่านั้น แต่ถ้าการสูญหายหรือเสียหายนั้นเกิดขึ้นในระหว่างที่ผู้ใช้รถประจำตำแหน่งอนุญาตให้บุคคลอื่นนำรถประจำตำแหน่งไปใช้นอกเหนือจากหน้าที่ปกติประจำ ผู้ใช้รถประจำตำแหน่งต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน แม้การสูญหายหรือเสียหายนั้นเกิดด้วยเหตุสุดวิสัย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าถึงอย่างไรการสูญหายหรือเสียหายก็จะเกิดขึ้นแก่รถคันนั้นอยู่นั่นเอง
ภายใต้บังคับวรรคหนึ่ง ในกรณีที่รถราชการสูญหายหรือเสียหายให้นำระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าวมาใช้บังคับโดยอนุโลม

ข้อ ๒๗  ในกรณีที่เกิดความเสียหายขึ้นแก่รถประจำตำแหน่ง รถส่วนกลาง รถรับรอง และอยู่ในระหว่างที่ดำเนินการหาตัวผู้รับผิดชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นแก่รถดังกล่าว หากส่วนราชการมีความจำเป็นต้องใช้รถคันนั้น ให้ผู้อำนวยการ หรือหัวหน้าสำนักงานภายในรายงานขออนุมัติซ่อมรถคันนั้นต่ออัยการสูงสุด หรืออธิบดีอัยการภาค แล้วแต่กรณี โดยเบิกจ่ายจากเงินงบประมาณไปก่อนได้

ข้อ ๒๘  สำนักงานภายในมีหน้าที่รับผิดชอบการซ่อมบำรุงรถประจำตำแหน่ง รถส่วนกลาง รถรับรอง ให้อยู่ในสภาพพร้อมที่จะใช้ได้ดีอยู่เสมอ  ทั้งนี้ มิให้มีมลพิษ และระดับเสียงจากท่อไอเสียเกินระดับมาตรฐานที่ทางราชการกำหนด และให้จัดทำสมุดรายการซ่อมบำรุงรถประจำตำแหน่ง รถส่วนกลาง รถรับรอง แต่ละคันตามแบบที่สำนักงานกำหนด และให้ส่งสำเนารายการซ่อมบำรุงไปยังสำนักงานบริหารกิจการสำนักงานอัยการสูงสุด อย่างน้อยปีละครั้ง
ให้สำนักงานจัดหารถราชการอื่นให้แก่ข้าราชการที่ใช้รถประจำตำแหน่งในระหว่างการซ่อมบำรุงหรือมีเหตุจำเป็นอันไม่อาจใช้รถประจำตำแหน่งได้เป็นการชั่วคราว

หมวด ๕
การเบิกจ่ายค่าเชื้อเพลิงรถราชการ
                  

ข้อ ๒๙  ผู้ใช้รถประจำตำแหน่งเป็นผู้จ่ายค่าเชื้อเพลิงเอง เว้นแต่การนำรถไปใช้ในราชการในพื้นที่นอกเหนือไปจากพื้นที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ปกติประจำ ให้เบิกจ่ายเชื้อเพลิงหรือเบิกค่าเชื้อเพลิงได้ตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง  ทั้งนี้ หัวหน้าส่วนราชการต้องรับรองทุกครั้งว่าได้มีการนำรถประจำตำแหน่งไปใช้ในกรณีดังกล่าวจริง
รถส่วนกลาง รถรับรอง ให้เบิกจ่ายค่าเชื้อเพลิงจากเงินงบประมาณ

หมวด ๖
ค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง
                  

ข้อ ๓๐  ข้าราชการฝ่ายอัยการผู้ดำรงตำแหน่งตามบัญชีท้ายหมายเลข ๒ มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง โดยให้เบิกจ่ายอัตราค่าตอบแทนตามบัญชีหมายเลข ๒ ท้ายระเบียบนี้
ผู้มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งผู้ใดมีสิทธิได้รับค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งในหลายอัตรา ให้ได้รับค่าตอบแทนในอัตราที่สูงกว่าเพียงอัตราเดียว

ข้อ ๓๐/๑[๒]  ข้าราชการฝ่ายอัยการผู้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงานอัยการสูงสุด ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๗๗/๒๕๕๗ เรื่อง การกำหนดตำแหน่งเพิ่มและการแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่ง ลงวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๗ มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง โดยให้เบิกจ่ายอัตราค่าตอบแทนเดือนละ ๔๑,๐๐๐ บาท หากมีสิทธิได้รับค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งในหลายอัตรา ให้ได้รับค่าตอบแทนในอัตราที่สูงกว่าเพียงอัตราเดียว

ข้อ ๓๑  การเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง ให้นำหลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายเงินเดือนข้าราชการมาใช้บังคับโดยอนุโลม  ทั้งนี้ ให้เบิกจ่ายได้ตั้งแต่วันที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง

ข้อ ๓๒  ข้าราชการฝ่ายอัยการผู้ดำรงตำแหน่งที่มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งและได้รับค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งแล้ว ให้จัดหารถยนต์ส่วนตัวมาใช้ในการปฏิบัติราชการของข้าราชการฝ่ายอัยการผู้นั้นให้เหมาะสมกับเกียรติและฐานะตำแหน่งราชการที่ดำรงอยู่

ข้อ ๓๓  ผู้มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง จะนำรถราชการไปใช้มิได้ หากนำไปใช้ให้ถือเป็นความผิดวินัย เว้นแต่การใช้รถส่วนกลางเพื่อกิจการตามข้อ ๑๓ หรือกรณีการเดินทางไปเป็นหมู่คณะเพื่อการที่จำเป็นและเหมาะสมแก่การดำรงตำแหน่งหน้าที่ในหมู่ข้าราชการและเพื่อสังคม

ข้อ ๓๔  กรณีผู้มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งได้รับคำสั่งให้เดินทางไปราชการชั่วคราว ให้ผู้มีสิทธิดังกล่าวมีสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยค่าใช้จ่ายการเดินทางไปราชการ รวมทั้งมีสิทธิขออนุมัติใช้รถส่วนกลางเป็นพาหนะเดินทางไปราชการได้

หมวด ๗
เบ็ดเตล็ด
                  

ข้อ ๓๕  ผู้ใดกระทำการโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ไม่ปฏิบัติตามระเบียบนี้ หรือกระทำโดยมีเจตนาทุจริต ปราศจากอำนาจหรือนอกเหนืออำนาจตามที่กำหนด ถือว่าผู้นั้นกระทำผิดวินัย ให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาลงโทษให้เหมาะสมกับความผิดและความร้ายแรงแห่งกรณี

ข้อ ๓๖  รถยนต์ซึ่งสำนักงานภายในได้มาโดยมิได้จัดหาจากงบประมาณของสำนักงาน ถ้าหัวหน้าสำนักงานภายในประสงค์จะให้รถยนต์ดังกล่าวเป็นรถราชการตามระเบียบนี้ ให้เสนอเรื่องผ่านสำนักงานบริหารกิจการสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อเสนอ กร.อส. พิจารณา ถ้า กร.อส. เห็นว่ารถยนต์คันดังกล่าวจะเป็นภาระแก่สำนักงาน ให้ กร.อส. พิจารณาไม่รับเป็นรถราชการตามระเบียบนี้
ในกรณีที่ กร.อส. รับรถยนต์ตามวรรคหนึ่งเป็นรถราชการ ให้รถคันดังกล่าวเป็นรถส่วนกลางของสำนักงานภายในนั้น

ข้อ ๓๗  ให้อัยการสูงสุดมีอำนาจออกคำสั่ง เพื่อกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับหน้าที่ของพนักงานขับรถยนต์ได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้

บทเฉพาะกาล
                  

ข้อ ๓๘  อัยการอาวุโสซึ่งเคยดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอัยการจังหวัดที่ได้รับค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งในอัตรา ๔๑,๐๐๐ บาท อยู่ก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ คงให้ได้รับค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งในอัตรา ๔๑,๐๐๐ บาท ต่อไปจนกว่าจะพ้นจากราชการ

ข้อ ๓๙  ผู้ที่ใช้รถประจำตำแหน่งอยู่ก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ ให้มีสิทธิใช้รถประจำตำแหน่งนั้นต่อไปจนกว่าจะพ้นจากตำแหน่ง

ข้อ ๔๐  ข้าราชการอัยการผู้ใดมีสิทธิได้รับค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งอยู่ก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ ให้ข้าราชการอัยการผู้นั้นได้รับค่าตอบแทนในอัตราเดิมตามระเบียบนี้ต่อไป เว้นแต่ข้าราชการอัยการผู้นั้นมีสิทธิจะได้รับค่าตอบแทนเพิ่มตามระเบียบนี้ เฉพาะในส่วนค่าตอบแทนที่เพิ่มขึ้นให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๕ เป็นต้นไป

ข้อ ๔๑  ค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง ตามบัญชีหมายเลข ๒ ลำดับที่ ๓ (๒) (๓) และลำดับที่ ๗ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๕ เป็นต้นไป

ข้อ ๔๒  ข้าราชการอัยการที่อยู่ในเกณฑ์ได้รับการแต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งอัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุดรับผิดชอบงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายจังหวัดตามวาระ แต่ได้รับการแต่งตั้งให้ไปปฏิบัติหน้าที่อื่น และก่อนวันที่ระเบียบนี้มีผลใช้บังคับ ก.อ.ได้มีมติให้ปฏิบัติหน้าที่ผู้กลั่นกรองงานที่มีอาวุโสลำดับที่ ๑ รองจากอัยการจังหวัด ให้ได้รับค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง ตามบัญชีหมายเลข ๒ ลำดับที่ ๗ (๑) โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๕ เป็นต้นไป


ประกาศ ณ วันที่ ๒๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
จุลสิงห์  วสันตสิงห์
อัยการสูงสุด


[เอกสารแนบท้าย]

๑. ขนาดมาตรฐานรถราชการสำนักงานอัยการสูงสุด (บัญชีหมายเลข ๑)
๒.[๓] บัญชีค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง (บัญชีหมายเลข ๒)

(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)



























ระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยรถราชการและค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๖[๔]

ข้อ ๔  ค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง ตามบัญชีหมายเลข ๒ ลำดับที่ ๓ (๓) ลำดับที่ ๗ (๒) และค่าตอบแทนที่เพิ่มขึ้น ตามบัญชีหมายเลข ๒ ลำดับที่ ๙ (๑) ให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๖ เป็นต้นไป

ระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยรถราชการและค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๗[๕]

ข้อ ๒  ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗ เป็นต้นไป

ระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยรถราชการและค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๗[๖]

ข้อ ๒  ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ เป็นต้นไป







ชาญ/ผู้จัดทำ
๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖

จุฑามาศ/เพิ่มเติม
๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๗









[๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๙/ตอนที่ ๓๑ ก/หน้า ๑๒/๔ เมษายน ๒๕๕๕
[๒] ข้อ ๓๐/๑ เพิ่มโดยระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยรถราชการและค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๗
[๓] บัญชีค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง (บัญชีหมายเลข ๒) แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยรถราชการและค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๗
[๔] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๐/ตอนที่ ๙ ก/หน้า ๑๔/๓๑ มกราคม ๒๕๕๖
[๕] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๑/ตอนที่ ๓๒ ก/หน้า ๑๙/๑๗ มีนาคม ๒๕๕๗
[๖] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๑/ตอนที่ ๖๔ ก/หน้า ๑/๔ กันยายน ๒๕๕๗

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

(ฉบับเต็ม) พรบ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ 2553

พระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. ๒๕๕๓                    ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ เป็นปีที่ ๖๕ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ   ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพ ของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๑ มาตรา ๔๑ มาตรา ๔๓ และมาตรา ๖๔   ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑    พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “ พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. ๒๕๕๓ ” มาตรา ๒ [๑]    พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓    ให...

ระเบียบ กอ.การลาหยุดราชการของข้าราชการฝ่ายอัยการ 2555

ระเบียบคณะกรรมการอัยการ ว่าด้วยการลาหยุดราชการของข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. ๒๕๕๕                    โดยที่เป็นการสมควรให้มีระเบียบคณะกรรมการอัยการ ว่าด้วยการลาหยุดราชการของข้าราชการฝ่ายอัยการ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๓ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. ๒๕๕๓ คณะกรรมการอัยการจึงออกระเบียบ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑  ระเบียบนี้เรียกว่า  “ ระเบียบคณะกรรมการอัยการ ว่าด้วยการลาหยุดราชการของข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. ๒๕๕๕ ” ข้อ ๒ [ ๑]   ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ ๓  ในระเบียบนี้ “ ข้าราชการ ”  หมายความว่า ข้าราชการฝ่ายอัยการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ “ ก.อ. ”  หมายความว่า คณะกรรมการอัยการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ ข้อ ๔  การลาทุกประเภทตามระเบียบนี้ ถ้ามีกฎหมาย ระเบียบ ก.อ. หรือมติ ก.อ. กำหนดเกี่ยวกับการลาประเภทใดไว้เป็นพิเศ...

ลักษณะงานที่ปฏิบัติ : นักจัดการงานทั่วไปปฏิบัติการ

หน้าที่ความรับผิดชอบหลัก ปฏิบัติงานในฐานะผู้ปฏิบัติงานระดับต้น ที่ต้องใช้ความรู้ ความสามารถทางวิชาการในการทำงาน ปฏิบัติงานด้านการบริหารจัดการภายในสำนักงานหรือการบริหารราชการทั่วไป ภายใต้การกำกับ แนะนำ ตรวจสอบ และปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย โดยมีลักษณะงานที่ปฏิบัติในด้านต่าง ๆ ดังนี้ ๑.ด้านการปฏิบัติการ ศึกษา รวบรวมข้อมูล สถิติ สรุปรายงาน เพื่อสนับสนุนการบริหารสำนักงานในด้านต่าง ๆ เช่น /งานสนับสนุนการดำเนินคดีของพนักงานอัยการ /งานบริหารทรัพยากรบุคคล /งานบริหารงบประมาณ /งานบริหารแผนปฏิบัติราชการ /งานบริหารอาคารสถานที่ และ /งานสัญญาต่างๆ เป็นต้น ปฏิบัติงานเลขานุการของผู้บริหาร เช่น การกลั่นกรองเรื่อง การจัดเตรียมเอกสารสำหรับการประชุม เป็นต้น เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในการวินิจฉัยสั่งการของผู้บริหาร จัดเตรียมการประชุม บันทึกและเรียบเรียงรายงานการประชุม และรายงานอื่น ๆ เพื่อให้การบริหารการประชุมมีประสิทธิภาพและบรรลุวัตถุประสงค์ของหน่วยงาน ทำเรื่องติดต่อกับหน่วยงานและบุคคลต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อให้การดำเนินงานบรรลุเป้าหมายตามที่กำหนด ช่วยติดตามกา...