ระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด
ว่าด้วยเงินทดรองราชการ
พ.ศ. ๒๕๕๔
โดยที่สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นส่วนราชการที่เป็นอิสระในการบริหารงานบุคคลการงบประมาณ และการดำเนินการอื่น โดยมีอัยการสูงสุดเป็นผู้บังคับบัญชา จึงเป็นการสมควรให้มีระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด ว่าด้วยเงินทดรองราชการ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๗ วรรคหนึ่ง (๓) และวรรคสาม ประกอบมาตรา ๗ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ. ๒๕๕๓ อัยการสูงสุดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการอัยการ จึงออกระเบียบ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด ว่าด้วยเงินทดรองราชการ พ.ศ. ๒๕๕๔”
ข้อ ๒[๑] ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในระเบียบนี้
“คลัง” หมายความว่า กระทรวงการคลัง หรือสำนักงานคลังจังหวัด
“กองคลัง” หมายความว่า กองคลัง สำนักงานอัยการสูงสุด
“สำนักงาน” หมายความว่า สำนักงานอัยการสูงสุด
“สำนักงานภายใน” หมายความว่า สำนักงานภายในตามประกาศ ก.อ. ที่เป็นหน่วยเบิกจ่าย
“ธนาคาร” หมายความว่า ธนาคารที่เป็นรัฐวิสาหกิจ หรือธนาคารพาณิชย์ ที่ กบง.อส. กำหนด
“ใบสำคัญคู่จ่าย” หมายความว่า หลักฐานการจ่ายที่เป็นใบเสร็จรับเงิน หลักฐานของธนาคารแสดงการจ่ายเงินให้แก่เจ้าหนี้ หรือหลักฐานการนำเงินเข้าบัญชีเงินฝากของผู้รับที่ธนาคาร และให้รวมถึงใบนำเงินส่งคลังด้วย
“ก.อ.” หมายความว่า คณะกรรมการอัยการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ
“กบง.อส.” หมายความว่า คณะกรรมการบริหารงบประมาณประจำปีสำนักงานอัยการสูงสุดตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการงบประมาณ
ข้อ ๔ บรรดาแบบพิมพ์ สมุดบัญชี เอกสาร และทะเบียนต่าง ๆ ที่ใช้เกี่ยวกับเงินทดรองราชการและวิธีการใช้ให้เป็นไปตามที่สำนักงานกำหนด
ข้อ ๕ หลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับเงินทดรองราชการที่มิได้กำหนดไว้ในระเบียบนี้ ให้ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการโดยอนุโลม
ข้อ ๖ ให้ กบง.อส. มีอำนาจตีความและวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้
ให้ กบง.อส. มีอำนาจพิจารณาให้ความเห็นชอบการยกเว้น หรือผ่อนผันการไม่ปฏิบัติตามระเบียบนี้ ทั้งนี้ โดยยังให้คงไว้ซึ่งวินัยการเงิน
ข้อ ๗ ให้อัยการสูงสุดรักษาการตามระเบียบนี้ และให้มีอำนาจออกประกาศ คำสั่ง หลักเกณฑ์และวิธีการเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามระเบียบนี้
บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง หรือมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ให้ใช้ระเบียบนี้แทน
หมวด ๑
เงินทดรองราชการ
ข้อ ๘ วงเงินทดรองราชการของสำนักงานอัยการสูงสุดที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลังในวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับเป็นอันใช้ได้และให้ใช้บังคับต่อไป
ในกรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุผลอันควร สำนักงานอาจพิจารณาเพิ่ม ลดหรือยกเลิกวงเงินทดรองราชการของกองคลังหรือสำนักงานภายใน แล้วให้สำนักงานส่งรายงานการจ่ายเงินทดรองราชการไปยังกรมบัญชีกลาง เพื่อพิจารณาอนุมัติ
ในกรณีที่มีการลดหรือยกเลิกเงินทดรองราชการ ให้กองคลังหรือสำนักงานภายในนำเงินทดรองราชการที่ลดหรือยกเลิกส่งคืนคลังทันที โดยกระทรวงการคลังอาจให้หักส่งจากเงินที่เบิกเพื่อชดใช้เงินทดรองราชการ
หมวด ๒
การเบิกเงินทดรองราชการ
ข้อ ๙ การเบิกเงินจากคลังเป็นเงินทดรองราชการ ให้กองคลังหรือสำนักงานภายในถือปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินจากคลังโดยอนุโลม
หมวด ๓
การเก็บรักษาเงินทดรองราชการ
ข้อ ๑๐ ให้กองคลังหรือสำนักงานภายในเก็บรักษาเงินทดรองราชการเป็นเงินสด ณ ที่ทำการไว้เพื่อสำรองจ่ายได้ ดังต่อไปนี้
(๑) กองคลัง ให้เก็บรักษาได้ไม่เกิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท
(๒) สำนักงานภายใน ให้เก็บรักษาได้แห่งละไม่เกิน ๓๐,๐๐๐ บาท
ข้อ ๑๑ ในกรณีที่กองคลังหรือสำนักงานภายในมีเงินทดรองราชการจำนวนเกินกว่าที่ได้รับอนุญาตให้เก็บรักษาเป็นเงินสด ณ ที่ทำการตามที่กำหนดไว้ในข้อ ๑๐ ให้กองคลังหรือสำนักงานภายในนั้น นำเงินทดรองราชการจำนวนที่เกินกว่าที่ได้รับอนุญาต ฝากเข้าบัญชีเงินฝากประเภทออมทรัพย์กับธนาคาร
ดอกเบี้ยที่เกิดจากการนำเงินทดรองราชการฝากธนาคารตามวรรคหนึ่ง ให้นำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน
ข้อ ๑๒ วิธีการเก็บรักษาเงินทดรองราชการให้ปฏิบัติตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด ว่าด้วยการเงิน
ข้อ ๑๓ กองคลังหรือสำนักงานภายในใดมีความจำเป็นต้องเก็บรักษาเงินทดรองราชการเป็นเงินสด ณ ที่ทำการเกินกว่าที่กำหนดไว้ในข้อ ๑๐ หรือมีเหตุผลอันสมควรที่จะนำเงินทดรองราชการฝากไว้ที่อื่นนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในข้อ ๑๑ ให้ขอความเห็นชอบจาก กบง.อส.
หมวด ๔
การใช้จ่ายเงินทดรองราชการ
ข้อ ๑๔ เงินทดรองราชการมีไว้สำหรับทดรองใช้จ่ายตามงบประมาณรายจ่าย ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร สำหรับเงินเดือน ค่าจ้าง และค่าตอบแทนของข้าราชการฝ่ายอัยการที่เข้ารับราชการใหม่ ลูกจ้าง และพนักงานราชการที่เข้ารับราชการหรือเข้าทำงานใหม่ ซึ่งกองคลังและสำนักงานภายใน ยังไม่อาจเบิกจ่ายเงินเดือนและค่าจ้างในเดือนนั้น ๆ ให้ได้
(๒) รายการค่าจ้างชั่วคราวสำหรับค่าจ้างซึ่งไม่มีกำหนดจ่ายเป็นงวดแน่นอนเป็นประจำแต่จำเป็นต้องจ่ายให้ลูกจ้างแต่ละวันหรือแต่ละคราวเมื่อเสร็จงานที่จ้าง
(๓) ค่าใช้จ่ายด้านบริหารจัดการที่เบิกจ่ายในลักษณะค่าตอบแทนใช้สอยและวัสดุอันเกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติราชการ
(๔) ค่าบริการไปรษณีย์ การสื่อสารและโทรคมนาคมเฉพาะกรณีที่ไม่อาจวางฎีกาเบิกจ่ายได้ทันภายในกำหนดเวลาชำระเงิน
(๕) งบกลาง เฉพาะที่จ่ายเป็นเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร เงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล หรือเงินสวัสดิการเกี่ยวกับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวสำหรับลูกจ้างชั่วคราว ซึ่งไม่มีกำหนดจ่ายค่าจ้างเป็นงวดแน่นอนเป็นประจำ แต่จำเป็นต้องจ่ายแต่ละวันหรือแต่ละคราวเมื่อเสร็จงานที่จ้าง
(๖) รายจ่ายอื่น ๆ ที่จ่ายในลักษณะเดียวกันกับ (๒) (๓) หรือ (๔)
ข้อ ๑๕ เงินทดรองราชการจะนำไปจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในข้อ ๑๔ มิได้ เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจาก กบง.อส.
ข้อ ๑๖ กรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนในระยะต้นปีงบประมาณ แต่สำนักงบประมาณยังไม่ได้อนุมัติเงินประจำงวด ให้กองคลังหรือสำนักงานภายในจ่ายเงินทดรองราชการไปก่อนได้รับเงินอนุมัติเงินประจำงวดได้
ข้อ ๑๗ ให้กองคลังและสำนักงานภายในเปิดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันกับธนาคารที่ฝากเงินทดรองราชการไว้ตามข้อ ๑๑ อีกหนึ่งบัญชี สำหรับการสั่งจ่ายเงินทดรองราชการโดยมีข้อตกลงให้ธนาคารโอนเงินจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ตามข้อ ๑๑ ไปเข้าบัญชีเงินฝากกระแสรายวันเพื่อจ่ายเงินตามเช็ค
ข้อ ๑๘ การจ่ายเงินทดรองราชการให้มีใบสำคัญคู่จ่ายไว้เป็นหลักฐานเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบและเบิกเงินงบประมาณรายจ่ายชดใช้เงินทดรองราชการ
การปฏิบัติเกี่ยวกับใบสำคัญคู่จ่ายให้เป็นไปตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด ว่าด้วยการเงิน
หมวด ๕
การส่งคืนเงินทดรองราชการ
ข้อ ๑๙ ในกรณีที่หมดความจำเป็นต้องใช้เงินทดรองราชการ ให้กองคลังหรือสำนักงานภายในนำเงินทดรองราชการส่งคืนคลังภายในสิบห้าวันนับตั้งแต่วันที่หมดความจำเป็นต้องใช้เงินทดรองราชการ
หมวด ๖
การรายงานและการบัญชี
ข้อ ๒๐ ให้กองคลังหรือสำนักงานภายในที่ได้รับเงินทดรองราชการรายงานยอดเงินทดรองราชการต่อกรมบัญชีกลาง หรือสำนักงานคลังจังหวัด แล้วแต่กรณี ทุกสิ้นปีงบประมาณตามหลักเกณฑ์วิธีการและแบบที่สำนักงานกำหนด
การรายงานยอดเงินทดรองราชการตามวรรคแรก ให้กองคลังหรือสำนักงานภายในรายงานต่อสำนักงานด้วย
ข้อ ๒๑ การบันทึกบัญชีควบคุมเงินทดรองราชการ ให้เป็นไปตามที่สำนักงานกำหนด
บทเฉพาะกาล
ข้อ ๒๒ ในระหว่างที่ ก.อ. ยังมิได้ออกประกาศแบ่งสำนักงานภายในของสำนักงานให้สำนักงานภายในตามระเบียบนี้เป็นไปตามกฎกระทรวงว่าด้วยการแบ่งส่วนราชการสำนักงานอัยการสูงสุด
ประกาศ ณ วันที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔
จุลสิงห์ วสันตสิงห์
อัยการสูงสุด
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒ มิถุนายน ๒๕๕๔
ณัฐวดี/ตรวจ
๒ มิถุนายน ๒๕๕๔
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น